04 มิถุนายน, 2556

ฟรีแลนซ์ รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง

ธุรกิจไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ต่างเจอกับปัญหาแทบทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าปัญหาที่พบเจอจะเล็กหรือใหญ่ การเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่ตัวบั่นทอนความมุ่งมั่น ความตั้งใจนั้น หากคุณเข้มแข็งพร้อมรับมือกับอุปสรรค และปัญหาที่ผ่านเข้ามาได้ย่อมส่งผลดีต่อตัวคุณเองและส่งผลต่อธุรกิจของคุณด้วย การเผชิญกับปัญหาบ่อยๆ คงเป็นเรื่องที่ใครก็คงไม่อยากเจอ แต่หากคิดในทางกลับกัน เมื่อคุณเจอปัญหาอุปสรรคบ่อยๆ คุณก็จะแข็งแกร่งในธุรกิจนั้นๆ

คำพูดที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
คงเป็นคำพูดที่เป็นความจริง การที่เราเตรียมรับมือ กับปัญหาที่จะเกิด เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของผู้อื่น และเตรียมการแก้ไขปัญหา ไว้เรียบร้อย จะทำให้เราบอบซ้ำน้อยที่สุด
“วันนี้คุณต้องไปสัมภาษณ์งาน คุณได้ศึกษาว่าการไปสัมภาษณ์งาน เขาจะถามคำถามอะไรบ้าง จากหนังสือ จากการถามผู้ที่มีประสบการณ์ และในขณะเดียวกันคุณก็คิดคำตอบของคุณไว้ เรียบร้อยแล้ว ว่าคุณควรตอบคำถามแบบไหนที่ดูดี และตอบคำถามแบบไหนคุณจะได้รับพิจารณาให้เข้าทำงาน”
การทำงานฟรีแลนซ์ก็เช่นเดียวกัน การเรียนรู้จากประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่ผ่านประสบการณ์มาก่อน พร้อมหาวิธีแก้ปัญหา เอาปัญหาที่รุ่นพี่เจอมาก่อนมาศึกษา แล้วเราก็จะเตรียมพร้อมรับมือกับมัน การจะเรียนรู้ปัญหาจะต้องเข้าใจตัวหมาก 3 ตัวที่เป็นคนคอยขับเคลื่อนงานฟรีแลนซ์ เพราะบุคคลเหล่านี้มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป และข้อแตกต่างนี้ อาจจะนำมาซึ่งปัญหาอีกด้วย
นายจ้าง เสียเงินจ้างถูกๆ แต่อยากได้งานเยอะ ดี
ฟรีแลนซ์ อยากได้เงินเยอะๆ งานเยอะๆ
พ่อค้าคนกลาง รับงานเยอะๆ หักค่าหัวคิวเยอะๆ
เนื่องจากความต้องการพื้นฐาน ของแต่ละคนแตกต่างกันอยู่ แล้วปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาก็แตกต่างกันออกไปตามหน้าที่ของใครของมัน แต่ฟรีแลนซ์อย่างเราก็เจอปัญหาเยอะเหมือนกัน
แต่การเรียนรู้ปัญหาก็เพื่อเป็นการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เราจะต้องเจอ เรียกว่า เรียนรู้เพื่อหลีกเลี่ยงมากกว่า
เมื่อเทียบกันแล้วคนที่ศึกษาความล้มเหลว หรือปัญหาต่างๆ ย่อมจะสามารถเผชิญกับปัญหาอย่างไรไม่เกรงกลัว และขณะเดียวกันผู้ที่ปิดหูปิดตา ก้มหน้าทำแต่งานเพียงอย่างเดียว เมื่อพบกับปัญหาเข้า จะไม่สามารถเผชิญกับปัญหาได้ ไม่มีเกราะกำบังให้กับตนเอง
รุนแรงที่สุดเลยก็คือธุรกิจการงานล้มเหลว จากปัญหาต่างๆ เหล่านี้เป็นปัญหาหลักๆ เบื้องต้นที่จะต้องเจอ คือ

1.โดนหลอกให้ทำงานฟรีๆ
ปัญหาหลักๆ ที่ฟรีแลนซ์ มือใหม่มักจะเจอและคนที่เป็นฟรีแลนซ์รุ่นพี่ที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วต่างผ่านเหตุการณ์นี้ แต่บางคนก็ไม่เจอกับตัวเองเพราะเนื่องจากว่าเตรียมตัวเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มต้นที่จะทำงานด้านนี้มาแล้ว
นายจ้างหลอกให้ทำงานฟรีๆ สาเหตุหลักมาจากการทำงานไม่มีสัญญา คำพูด สัญญาใจใช้ไม่ได้สำหรับการทำงานอาชีพนี้ เพราะการทำงานที่ไม่มีสำนักงาน หรือบริษัทที่แน่นอน ฉะนั้นคุณควรจะสร้างเกราะกำบังให้กับตัวเองสร้างเงื่อนไขของการทำงานที่เป็นกฎเกณฑ์สำหรับผู้ที่ว่าจ้างทุกคนที่ต้องรับกฎนี้ด้วย
“จากการทำงานบนเส้นทางนี้มานาน คุณบัญชา ทำงานกราฟฟิคดีไซด์ คุณบัญชาจะมีกฎของตัวเอง คือ การรับงานทุกครั้งเขาจะยื่นเอกสาร 1 ใบให้กับผู้ที่จะว่าจ้างทุกคน การทำงานของเขายึดหลัก ต้องวางมัดจำการทำงาน แบ่งจ่ายเงินเป็น 3 งวด มีการเสนอความคืบหน้าของงาน การแก้ไขงานกี่ครั้ง และเงื่อนไขอื่นๆ หลังจากมีการคุยงานและทั้งสองฝ่ายตกลงรับข้อตกลงทั้งสองฝ่ายก็จะมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
คุณบัญชาบอกว่าการที่ทำแบบนี้เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมามันสอนอะไรหลายๆ อย่าง ผมโดนหลอก ให้ทำงานฟรีๆ โดยไม่ได้เงินค่าตอบแทน ผมจึงคิดหาวิธี และก็คิดว่าวิธีนี้ใช้ได้ผล เพราะปัญหาหลอกให้ทำงานฟรีๆ ก็ไม่เจออีกเลย”
ไม่ว่างานที่คุณรับมาทำจะเป็นงานที่เล็กหรืองานที่ใหญ่ เงินน้อยหรือมากต่างก็มีความรอบคอบ เพราะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ยิ่งเจอกันใหม่ๆ ยังไม่รู้จักหรือสนิทสนมก็อย่าชะล่าใจ ควรมีสัญญา ที่สำคัญต้องแนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านด้วย เพราะว่าบางคนเขียนที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ แบบมั่วๆ บางคนชื่อก็ยังไม่ใส่ชื่อจริง
การทำงานที่เพิ่งเริ่มต้น จงคิดว่าเป็นบทเรียนที่เราสามารถ แก้ไขมันได้ และก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง

2.พ่อค้าคนกลาง
คนที่มีความสามารถสูง ในการหาลูกค้า แต่ละเดือนก็แทบจะไม่ต้องทำอะไร เมื่อได้งานมาก็โยนให้ฟรีแลนซ์ทำแล้วหักค่าหัวคิว เช่น งานนี้รับเงินมา 30,000 ก็หักเงินไป 15,000 มีหน้าที่ประสานงานระหว่างลูกค้ากับฟรีแลนซ์ ฟังดูก็ไม่นาจะมีปัญหาอะไรเพราะต่างคนก็ทำหน้าที่ของตนเองไป
“การที่ต้องหาลูกค้ามันทำให้เสียเวลา แทนที่จะเอาเวลามานั่งทำงาน มันก็จริง แต่บางที่เราก็ต้องยอมรับความเป็นมืออาชีพในการหาลูกค้า ถึงจะโดนหักค่าหัวคิวไปบ้างก็ไม่เสียหายอะไร ผมทำฟรีแลนซ์มาได้สักประมาณ 3 ปี แล้วเกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซด์ แต่ด้วยประสบการณ์ของผมยังน้อยในการหาลูกค้า จึงเป็นข้อด้อยของผม จนผมเองได้พบกับรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาบอกจะหาลูกค้าให้ ตกลงให้เปอร์เซ็นต์กันแล้ว ผมก็ได้รับงานกับเขามาตลอดอย่างต่อเนื่อง ผมก็ว่ามันดีกว่า ออกไปหางานเอง
แต่ปัญหาที่เจอบ่อยๆ คือการสื่อสาร เพราะลูกค้าจะสื่อสารกับคนกลาง แล้วคนกลางก็จะมาสื่อสารกับเราอีกต่อหนึ่ง ด้วยการสื่อสารทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน งานจึงออกมาไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ก็เสียเวลาในการแก้ไขงานหลายรอบ ทำให้เสียเวลา การทำงานก็เกิดความล่าช้า”
ใครที่รับงานผ่านพ่อค้าคนกลาง จะต้องรับได้ในแง่ที่ว่า เงินได้น้อยกว่าที่รับงานเอง งานอาจล่าช้าเพราะการสื่อสารหลายต่อ บางทีหากคุณสื่อสารโดยตรงกับผู้ว่าจ้างเอง งานอาจจะจบเร็วกว่าก็ได้ คือ คุยกันแค่ครั้งเดียวก็รู้เรื่อง เพราะเราเป็นคนทำงานโดยตรง ย่อมรู้ปัญหา ย่อมรู้วิธีแก้ และย่อมรู้ในเรื่องการทำงาน กว่าคนอื่นๆ หากในแง่นี้คุณรับมันได้ คุณก็คงไม่ต้องวุ่นวาย กับการหาลูกค้าให้เสียเวลา และยังมีงานให้ทำอย่างต่อเนื่อง

3.ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจ
สังคมมีทั้งที่ดีและคนที่ไม่ดีดังคำกล่าวที่ว่า ”ปลาตายตัวเดี่ยว......” การทำงานฟรีแลนซ์วงการนี้มีทั้งคนดี คนที่มีความพร้อมความตั้งใจในการทำงาน แต่ก็ยังมีพวกมิจฉาชีพที่เข้ามาแสวงหาผลกำไร เข้ามาในคราบของคนทำงานฟรีแลนซ์ ทำให้คนดีๆ ถูกมองในงาลบทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย การตั้งแง่ต่างๆ สร้างเงื่อนไขต่างๆ ในการรับงาน ทำให้ฟรีแลนซ์กว่าจะได้รับงานยากขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
การกระทำของคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นทำให้คนอื่นๆ มองว่าคนทำฟรีแลนซ์ไม่ดี ไม่น่าไว้ใจ ไม่มีที่ทำงาน หรือสถานที่ติดต่อเป็นหลักแหล่ง

3.1ฟรีแลนซ์ทิ้งงาน
เมื่อตกลงรับงานแล้วสิ่งที่คนทำจะต้องรักษาไว้ให้ดีที่สุดคือ การควบคุมเวลาให้งานเสร็จ ตรงตามที่ได้ตกลงไว้ หากเงื่อนไขอยู่ในสัญญา ว่าคุณจะต้องถูกปรับหากงานไม่เสร็จตามสัญญา แต่ฟรีแลนซ์รุ่นแรกๆ นั้นยังไม่มีการเซ็นสัญญา จึงเบี้ยวงานหรือทิ้งงานกันง่ายๆ ได้ ทั้งที่รับงานไปแล้วส่วนหนึ่ง
“คุณเดช ได้กล่าวว่า เมื่อสามปีก่อนผมได้ว่าจ้างงานฟรีแลนซ์คนหนึ่งทำเว็บโดยตกลงเงื่อนไขระยะเวลา และตัวเงินกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมได้จ่ายเงินในงวดแรกใน15,000 บาท จนเวลาผ่านไป 1 เดือน งานคืบหน้า 10% 2 เดือนงานมีความคืบหน้า 20% พอเข้าเดือนที่ 3 ไม่คืบหน้าจนเวลาล่วงไปเกือบปีแล้ว เนื่องจะว่าอะลุ้มอล่วย เพราะเราก็สะเพร่าตรงที่ไม่มีการเซ็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงสัญญาใจเท่นั้น
ปัจจุบันนอกจากงานชิ้นนี้ยังไม่เสร็จ และผมก็ยังตามตัวคนที่รับงานผมไม่เจอ เสียเงินไปฟรีๆ 15,000 บาท อย่างไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือเปล่า และเป็นสิ่งที่ผมกลัวเวลาที่จะจ้างฟรีแลนซ์ ให้มาทำงาน ผมจะต้องดูให้ละเอียดมากๆ คนนี้เป็นใคร มาจากที่ไหน เรียนจบอะไร ผลงานที่ผ่านมาเป็นยังไง มีใครรับรองได้บ้าง และไม่ลืมที่จะทำสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร”
กว่าจะได้รับงานแต่ละชิ้นมันทำไมยากจัง นอกจากจะต้องแข่งขันกับคนอื่นๆ แล้ว ยังต้องมาเจอด่านนายจ้างที่หินสุดๆ เรื่องการซักประวัติ สัญญาแบบชนิดที่ต้องตรงเปะ ทั้งเวลาและงาน
แต่เราก็ไม่ต้องไปกลัวหรือหวั่นไหวกับมันเพราะว่าความมุ่งมั่น และความตั้งใจชนะ ทุกๆ สิ่งอยู่แล้ว

3.2 หลอกเอาเงินมัดจำ
จุดอ่อนของการไม่ทำสัญญา ผลลัพธ์ก็คือการโดนหลอก นายจ้างหลายๆ คนโดยหลอก เสียเงินไปหลายราย เพราะพลาดจ่ายค่ามัดจำงาน ไม่ตรวจสอบประวัติของคนรับฟรีแลนซ์ว่าให้ข้อมูลที่เป็นจริงหรือไม่
การโอนเงินก้อนโตให้กับฟรีแลนซ์ ซึ่งเป็นเงินมัดจำในงวดแรกนั้นเป็นสิ่งที่เสี่ยงมากๆ ถ้าไม่ทำสัญญา ถ้าไม่ให้ฟรีแลนซ์ หน้าใหม่ทำ ไม่มีการซัก หรือสืบข้อมูลเบื้องต้น เพราะเนื่องจากว่าบางทีอาจเป็นมิจฉาชีพ แฝงเข้ามาในคราบคนทำงานฟรีแลนซ์กับคนทำงานฟรีแลนซ์ ทำให้นายจ้างสูญเงิน และงานยังไม่สำเร็จ

4. การตัดราคา
ระบบงานและการทำงานของฟรีแลนซ์เป็นงานที่จะต้องหาลูกค้า และมีการแข่งขันกันสูงมาก เพราะปัจจุบันมีจำนวนคนที่เข้ามาทำงานในระบบนี้มากขึ้น การนำเสนองานของแต่ละคนก็ต้องดี และเด่นพอ สมกับที่จะจ้างมาทำงาน แต่ก็ยังไม่พอแค่นั้นเรื่องราคาที่เสนอก็เป็นองค์ประกอบสำคัญมากเช่นกัน
ลักษณะของงานและจำนวนตัวเลข เป็นส่วนที่สำคัญที่นายจ้างจะมาพิจารณา เนื่องจากมีการแข่งขันกันสูงนี่เอง จึงทำให้ฟรีแลนซ์ต้องเสนอราคาต่ำไว้ก่อน และนายจ้างเองก็พอใจกับการที่ต้องจ่ายเงินในจำนวนน้อยและได้ปริมาณงานที่มาก จึงทำให้มีการตัดราคาเพื่อช่วงชิงงานนั้นๆ
ของถูกและดีไม่มีในโลก ฟรีแลนซ์และนายจ้างทั้งหลาย จงจำไว้ ฝีมือและคุณภาพเท่านั้นจะทำให้งานออกมาดี

5. การทดสอบความรู้
นายจ้างต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถ จริงเข้ามาทำงาน ส่วนฟรีแลนซ์เองก็ต้องการค่าตอบแทน ที่สมน้ำสมเนื้อกับงานที่ได้ทำ เรื่องการทดสองภูมิความรู้ ของทั้งสองฝ่ายจึงเกิดขึ้น
ด้านของนายจ้าง เมื่อต้องการจ้างฟรีแลนซ์ สักคนเข้ามาทำงานก็ควรจะหาข้อมูล ความรู้ในเรื่องที่จะทำงานบ้างเพื่อไม่ให้เสียรู้ให้กับฟรีแลนซ์ เช่น คุณอยากออกแบบบ้านคุณก็ควรหาข้อมูลความรู้เรื่องนี้มาก่อน หรือไม่อาจจะหาเพื่อน หรือญาติ ที่พอจะมีความรู้เรื่องนี้มานั่งฟังด้วย เนื่องจากฟรีแลนซ์อาจจะโก่งค่าตัวได้ เพราะดูจากลักษณะว่าเราคงไม่รู้เรื่อง
คนทำฟรีแลนซ์ก็ควรจะมีการเตรียมตัวล่วงหน้าเมื่อต้องไปพบกับลูกค้า เมื่อต้องไปนำเสนองาน งานที่เสนอคุณมีความรู้ความสามารถเพียงพอหรือไม่ บริษัทหรือนายจ้างที่คุณต้องนำเสนองาน คุณรู้จักเขาดีมากแค่ไหน ทำธุรกิจอะไร คนที่คุณจะต้องไปพบเป็นคนอย่างไร นิสัยอย่างไร การศึกษาข้อมูลในเรื่องงาน เวลาเมื่อเขามีคำถาม ถามคุณ คุณก็จะตอบข้อซักถามนั้นได้และมีความมั่นใจ
ส่วนการศึกษาในเรื่องของลักษณะของบริษัท ตัวนายจ้างที่คุณจะต้องไปพบ ทำให้คุณรู้จักการวางตัว ลดอาการประหม่า
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในบทบาทหน้าที่ไหน สำคัญที่สุดที่คุณควรจะต้องมีคือความรู้ มีการเตรียมตัว เตรียมพร้อมเสมอ เพราะเนื่องจากการทำงานฟรีแลนซ์ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณช้าไปก้าวหนึ่ง คุณจะไม่ทันเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่ตบเท้าเข้ามาอยู่ในวงการฟรีแลนซ์
วันนี้อาจจะเป็นวันที่คุณเริ่มต้นการทำงานบนเส้นทางแห่งนี้พรุ่งนี้คุณอาจจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้ เพราะทางที่คุณเลือกเดินคุณมีความเข้าใจ คุณมีความรัก และคุณพร้อมที่ก้าวเผชิญกับมัน เผชิญกับปัญหา เผชิญกับคู่แข่ง เมื่อคุณผ่านจุดๆ นั้นมาได้ ความสำเร็จบนสายอาชีพนี้คงไม่ไกลเกินฝัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น