09 มิถุนายน, 2552

ฟรีแลนซ์ VS งานประจำ

มองความแตกต่างเพื่อเห็นความต้องการของตนเอง

ความแตกต่างของระบบงานทั้งสองระบบ ลักษณะการทำงาน เทคนิค และวิธีการทำงานต่างๆ ย่อมแตกต่างกันและมีข้อดีข้อเสียในตัวของมันแทบทั้งสิ้น และตัวคุณเองทราบว่าเรามีความถนัด ชอบ และเหมาะกับการทำงานในลักษณะใด

งานที่เหมาะสำหรับคุณที่สุดคืองานที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณที่สุด และงานที่คุณทำก็จะออกมาดี มีคุณภาพ เพราะคุณทำมันด้วยใจ ข้อแตกต่างต่อไปนี้ลองมองและสำรวจตัวเองว่างานระบบไหนที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณมากที่สุด

ลักษณะการทำงาน
การทำงานระบบงานประจำคุณจะต้องเป็นคนที่รักษาระเบียบทำงานเป็นระบบ ตามคำสั่ง หรือทำงานตามที่ได้รับมอบหมายตามหน้าที่รับผิดชอบ มีเวลาการทำงานที่แน่นอน

ส่วนการทำงานฟรีแลนซ์ คุณสามารถเป็นเจ้านายตัวเอง จะทำงานเวลาไหน วันละกี่ชั่วโมง จะนอนตื่นสาย ตัวคุณเองเป็นผู้กำหนดเวลาในการทำงาน

เพื่อนร่วมงาน
การมีเพื่อนร่วมงานทำให้ได้ประโยชน์ในเรื่องของการทำงานเป็นทีม แต่เชื่อว่าในบรรยากาศการทำงานหลายๆ ที่ต้องเจอปัญหา จุกจิกกวนใจ ของเพื่อนร่วมงานที่แย่ๆ หลายคน หลายความคิด ร้อยพ่อพันแม่ ย่อมจะมีปัญหากระทบกระทั่งในการทำงานกันบ้าง

ส่วนงานฟรีแลนซ์เนื่องจาก คุณจะทำงานที่ไหนก็ได้ จะเป็นบ้านคุณหรือบ้านใคร งานของคุณเป็นงานที่คุณมีส่วนรับผิดชอนเพียงคนเดียวเรื่องของปัญหาเพื่อนร่วมงานจึงไม่เกิดปัญหา



เวลาในการทำงาน
งานประจำมีเวลาในการทำงานที่แน่นอนโดยมากระยะเวลาในการทำงานในหนึ่งสัปดาห์ก็จะทำวันจันทร์ – วันศุกร์ แล้วแต่บางที่อาจมีการทำงานในวันเสาร์ด้วย เวลาทำงานในแต่ละวันก็เป็นเวลาที่แน่นอน เช่น 8โมงเช้า – 4โมงเย็น โดยแต่ละบริษัทอาจจะมีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไปแต่โดยประมาณแล้วเวลาในการทำงานจะมีกฎเกณฑ์ที่มีความแน่นอน

เวลาในการทำงาน ฟรีแลนซ์มีเวลาในการทำงานที่แตกต่างจากงานประจำคือ เวลาในการทำงานคุณผู้บริหารเอง เพื่อทำให้เสร็จทันตามที่นายจ้างต้องการ การบริหารเวลาก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองว่าต้องการทำงานเวลาไหน จะเป็นทำงานตอนกลางคืน ตื่นนอนตอนสายๆ หรือจะทำตอนเช้าสัก 2 – 3 ชั่วโมงแล้วออกไปข้างนอกได้สบายๆ



การลาหยุดการทำงานประจำจะมีกฎในเรื่องของการลาพัก การลา ลากิจได้กี่วัน ลาป่วยได้กี่วัน และลาพักร้อน ทุกๆบริษัทจะมีกฎตายตัวให้พนักงาน รับรู้และรับทราบตามที่ได้ตกลงกันเพราะการทำงานร่วมกับคนหลายๆ คนย่อมจะต้องมีการเปรียบเทียบ เช่นบางคนได้ลาหยุด แต่ทำไมบางคนไม่ได้ลาหยุด ทำไมเงินเดือนกลับได้เท่ากัน หรือในอีกหลายๆ กรณีที่ทำให้งานบริษัทจะต้องมีกฎระเบียบ การทำงานจะต้องทำงานกับคนหมู่มาก จึงจะต้องมีกฎระเบียบเพื่อให้เคารพกฎและเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและไม่เกิดปัญหาตามมา

เรื่องการหยุดงานฟรีแลนซ์เป็นไปตามที่เรากำหนด อยากจะหยุดวันที่เขาทำงานหรืออยากจะหยุดตามปกติก็ย่อมได้ เพราะตัวเราเป็นผู้กำอิสรภาพอยากจะออกไปไหน หรือแวะไปร้านหนังสือ ไปส่งพ่อไปธนาคาร ส่งแม่ไปตลาดก็ไม่มีใครว่า หรือใครบ่นให้ปวดหัว เนื่องจากการทำงานเน้นความรับผิดชอบ และการบริหารเวลาด้วยตนเอง เรื่องการ ขาด ลา หยุด เข้างานสายจึงไม่ต้องเอามาให้ปวดหัว
การแต่งกาย
การแต่งตัวให้เรียบร้อยเป็นเรื่องที่หลายๆ บริษัท ให้ความเข้มงวดพนักงานเพื่อความเป็นระเบียบ หรือการทำงานบางบริษัทต้องติดต่อประสานงานกับบริษัทลูกค้า งานที่ต้องพบปะผู้คน พนักงานจึงต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย บางบริษัทจะมีชุดฟอร์มเพื่อใส่ให้เหมือนๆ กัน ด้วยเรื่องของการแต่งกายจึงจำเป็นสำหรับคนทำงานประจำ


การแต่งกายสำหรับฟรีแลนซ์ ขาสั้น กางเกงเลย์ ยีนส์ สายเดี่ยว เอวลอย คุณจะใส่อะไรก็ได้ ไม่ต้องกลัวคนมองว่าไม่เรียบร้อย เพราะการทำงานของคุณ มักจะทำอยู่ที่บ้าน การแต่งกายก็แล้วแต่ life style ของใครของมัน เนื่องจากใส่ทำงานอยู่กับบ้าน จึงไม่จำเป็นต้องแต่งตัวไปอวดใครๆ หรือใส่ฟอร์มให้เรียบร้อย แต่หากต้องออกไปพบลูกค้าก็ควรแต่งให้เรียบร้อย



การจราจร
สิ่งที่คุณจะต้องเจอทุกวันนอกจากเพื่อนร่วมงาน หรือนายจ้างแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคงเป็นสิ่งที่คุณจะหลีกเลี่ยงมันไม่ได้เลยคงเป็นการ จราจรที่วุ่นวายรถติดบ้าง ไม่ติดบ้าง แล้วแต่สภาพการณ์ ฝนตก หวยออก รถชน ปิดถนนประท้วง หลายเหตุผลล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการจราจรแทบทั้งสิ้น ตัวคุณเองก็คงต้องทำใจกับการจราจรต่อไปตราบใดที่ยังต้องทำงานประจำจงทำใจ เพราะคุณจะต้องเผชิญกับการจราจรทุกวัน เจอกับการจราจร คนทำงานประจำต้องออกจากบ้านไปทำงานในตอนเช้าและกลับบ้านในตอนเย็น เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนรีบเร่งที่จะไปทำงานเหมือนๆ กัน
คนทำงานฟรีแลนซ์ โอกาสที่จะมาเจอการจราจรนั้นจะเป็นส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่ทำงานประจำ คนทำฟรีแลนซ์หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่รถคับคั่งได้และแทบจะไม่ได้ออกนอกบ้าน หากไม่มีธุระจำเป็นต้องออก

ค่าใช้จ่ายนอกบ้านทุกๆ เดือนหากคำนวณค่าใช้จ่ายของคุณแล้ว สิ่งที่คุณจะต้องจ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ ค่าน้ำมันรถ ค่าแท็กซี่ ค่าอาหารกลางวัน ค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างตั้งแต่คุณเดินทางออกจากบ้านจนถึงที่ทำงานและจนถึงเลิกงานล้วนแล้วแต่เป็นค่าใช้จ่ายนอกบ้านที่คุณจะต้องจ่ายแทบจะทุกเดือน คนที่ทำงานประจำจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะยังไงก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

คนทำงานฟรีแลนซ์ ค่าใช้จ่ายนอกบ้านก็แทบจะไม่มีเลยเพราะทำงานอยู่กับบ้าน ฉะนั้นค่าน้ำมันรถ ค่าแท็กซี่หรือแม้แต่อาหารกลางวัน ก็กินที่บ้าน บางครั้งเงินสดก็แทบจะไม่มีติดกระเป๋า แต่หากได้ออกจากบ้านเมื่อไรก็มักจะจ่ายเยอะเหมือนกัน ซึ่งคนทำฟรีแลนซ์ต้องมีวินัยในเรื่องการมใช้เงินเป็นอย่างมาก เพราะบางทีไม่มีค่าใช้จ่ายนอกบ้านทุกๆ วัน แต่พอออกบ้านแค่วันเดียวก็อาจหมดเงินในกระเป๋าก็ได้
รายได้
ความแน่นอนของคนที่ทำงานประจำคือเมื่อถึงเวลาสิ้นเดือนเป็นที่รู้กันอยู่ว่าต้องได้เงินเดือน จะทำงานมาก ทำงานน้อย เงินเดือนก็ได้เท่าเดิม
ส่วนรายได้ของฟรีแลนซ์ อยู่ที่การทำงาน ผลงาน คุณทำมาก คุณก็ได้มาก คุณทำน้อย คุณก็ได้น้อย บางเดือนไม่ทำเดือนนั้นก็ไม่มีรายได้

สวัสดิการโบนัส วันหยุด เงินออม ประกันสังคมหลายๆ บริษัทจะมีเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับพนักงาน แต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกันไป จะมีมากมีน้อยขึ้นอยู่กับโครงสร้างของบริษัท ทุกๆ บริษัทจะต้องมีสวัสดิการตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด

สวัสดิการของคนทำงานฟรีแลนซ์ ไม่มีบริษัท ดำเนินงานด้วยตัวเอง ฉะนั้น โบนัส หรือสวัสดิการต่างๆ ไม่มี อยู่ที่ตัวคุณเองว่าจะเก็บเงินได้มากหรือน้อย

อายุอายุกับการทำงานมีผลต่อการทำงานประจำ ซึ่งหากอายุเยอะ การไปสมัครงานที่ต่างๆ เขามักจะไม่รับ บางทีถึงกับกำหนดว่าอายุเกิน 35 ปี ไม่รับ
คนทำงานฟรีแลนซ์ มักจะมองกันที่ผลงานมากกว่า เคารพกฎกติกาตามที่ตกลงกับนายจ้าง เรื่องอายุมักจะไม่ให้ความสำคัญมากนัก

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คงจะสรุปได้แล้วว่า งานประจำ หรือว่า งานฟรีแลนซ์ มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วตัวคุณเหมาะกับงานประเภทไหน สำรวจดูข้อดี ข้อเสีย เงินรายได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้คุณยอมรับมันได้หรือไม่ หากคำตอบของคุณคือ งานฟรีแลนซ์ การเรียนรู้ระบบงานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก

การเริ่มต้นเป็นฟรีแลนซ์ จึงจำเป็นต้องเรียนรู้ระบบงาน เทคนิค วิธีต่างๆ เพื่อให้เป็นฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น